จิต 152 ดวงในกาย เพียงหมั่นเลี้ยงด้วยบุญฤทธิ์ เมตตาจิต ก็สามารถสะสางล้างวิบากกรรมได้

อณูจิตที่มารวมกันอยู่กลายเป็นจักรวาลภายในตัวเรา เรียกว่า ” จิตวิญญาณ “ จิตพวกนี้ยังไม่มีบุญบารมี เขาจึงต้องเข้าไปอาศัย ศึกษา เรียนรู้ กับธาตุขันธ์อื่นๆ ไปพลางๆ ก่อน เพื่อที่จะเก็บสะสมข้อมูล รหัส สัญญาเอาไว้ภายในจิตตน จิตวิญญานเหล่านี้เขาบุญหมดจึงแตกดับไปก่อนหมดอายุขัย เพราะในอดีตชาติได้สร้างเวรกรรมทำชั่วไว้มาก จึงไม่สามารถสร้างธาตุขันธ์ของตนเองขึ้นมาได้ ต้องไปอาศัยเกาะกุมกับธาตุขันธ์อื่นๆ ที่เคยมีเวร มีกรรม ร่วมกันมา หรืออาจเคยเป็นพวกพ้อง บุตร บริวารต่อกันมา จึงมาอาศัยเกาะตัวเราไป เพราะจิตวิญญาณ ( อณูธาตุ ) เหล่านี้เขาติดอยู่ในอณูธาตุมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน เขาจึงทุกข์ ทรมานมาก พอเขาเห็นแสงสว่างจากตัวเรา เขาก็จะวิ่งเข้ามาเกาะ หรือ เราก็กินพวกเขาเข้าไปในตัวของเราเอง ( อาหารพลังงาน ) เมื่อเขาเข้ามาหล่อหลอมในตัวเรามากๆ เขาก็สามารถที่จะเข้าไปหล่อหลอมจิตทั้ง 152 ดวง ให้ไหลไปตามกระแสของเขา หรือไหลไปตามกระแสของโลก

เพราะจิตวิญญาณเหล่านี้ติดสุข ติดอุปกิเลสความทะยานอยากมานานแสนนาน พอเข้ามาห่อหุ้มตัวเรา มากๆ เข้า ก็จะมีพลังอำนาจปรุงแต่งจิตใจเของเรา ให้ไหลไปตามความทะยานอยากของเขา เราจึงต้องกำหนดสติ ไม่ไหลไปกับกระแสทะยานอยากนั้น หมั่นแผ่เมตตา ให้อโหสิกรรมต่อกัน เติมพลังงานดีดีทั้งพลังจักรวาล พลังทิพย์ พลังแห่งบุญฤทธิ์ให้กาย-จิตอยู่เสมอๆ อย่าไปตามอำนาจทะยานอยาก พิจารณาให้เป็นปฎิกูลเสีย เราจะได้ละได้ วางได้ เพราะนี่คือผลสะท้อนกลับของวิบากจิตมาร จิตเจ้ากรรมนายเวร จิตเหล่านี้คือจิตสากลของห้วงจักรวาลแห่งธาตุ เขาจึงสามารถส่งกระแสออกไปได้ทุกทิศทุกทาง เพราะเขามีพลังไฟฟ้าบวกกับลบอยู่ในตัวเดียวกันเหมือนกับเรา

ถ้าสภาวะจิตเขาดี เขาก็กลายเป็นสัมมาทิฐิ เป็นเจ้าบุญนายคุณของเรา แต่..ถ้าเขามีจิตชั่วอยู่เหนือกว่าจิตดี เขาก็กลายเป็นทิฐิมานะ เป็นจิตมาร กิเลสมาร กลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราต่อไป เพราะมันเป็นการต่อสู้กันอยู่ระหว่างจิตดีกับจิตชั่ว ซึ่งมีอยู่ภายใจตัวเรา เราก็อย่าไปรับรู้มัน อย่าไปรับมันทั้งบวกและลบ ทำจิตให้วางเฉยเป็นอุเบกขา ไม่ติดทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่ว กำหนดจิตเราให้อยู่กลางๆ เฉยๆ เพื่อที่จะทำให้จิตของเราทั้งหมด รวมตัวกลายเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นธรรมดา ธรรมชาติ มีสติระลึกรู้อยู่ในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ใช้จิตสามดวงนี้ไปชำระล้างอโหสิกรรมต่อทุกล้านๆ ดวงจิตเหล่านั้นได้

  • เมื่อเข้าสู่เส้นทางแห่งศีล สมาธิ ปัญญาได้แล้ว ศีล สมาธิ ปัญญาเหล่านี้แหละที่สามารถเข้าไปชำระล้างจิต หรืออณูแห่งจิตนับล้านๆดวง ให้แตกดับลงไปได้เพียง 3 ดวงนี้เท่านี้เอง ไม่ต้องถึงพุทธิจิตเลย พอจิตเขาเกาะถึงพร้อมซึ่งศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว มันก็จะรวมเข้าเป็นทางเดียวที่จะไปยังพุทธิจิต หรือจิตดวงสุดท้ายได้ ไม่มีทางอื่นอีกต่อไป นอกจากศีล สมาธิ ปัญญาเท่านั้นจิตถึงจะเกิดตัวรู้ที่ถ่องแท้ได้

เมื่อเราถ่องแท้แล้ว จิตทั้งหมดก็จะรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน เรียกว่า พุทธิจิต หรือจิตของพุทธะ ซึ่งจิตดวงนี้จะเปี่ยมไปด้วย เมตตาจิต ปัญญาจิต บริสุทธิ์จิตมันจะเหลืออยู่เพียง 3 ดวงเท่านั้น ที่จะเข้าสู่ทางแห่งมรรค-ผล และสามารถที่จะชำระล้างหรือชี้แนะแนวทางให้กับจิตดวงอื่นๆ ให้ใสสะอาดตามจิตทั้งสามดวงด้วย จิตรอบๆ ธรรมชาติรอบๆ ก็จะสะอาดผ่องใสกลมกลืนกันไปด้วยเสมอ เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นเอง

  • มหัศจรรย์แห่งจิต

ติดต่อบูชา LINE : @namotasa

You cannot copy content of this page