-
การระลึกชาติชาตินั้น จัดเป็นวิชชาแปดปราการ ที่อาจเกิดแก่บุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อสมาธิแก่กล้า จนสู่สภาวะที่เรียกว่า จิตเป้นเอก หรือเอกัคตารมณ์ จิตชนิดนี้อาจบันดาลให้เกิดอำนาจพิเศษ เหนือความสามารถของบุคคลธรรมดา ซึ่งโดยแท้จริงนั้น สมัยพุทธกาลพระอรหันต์ผู้สิ้นอาสวะทั่วไปก็อาจสำแดงฤทธิ์ได้ แต่พระอรหันต์บางท่าน นอกจากจะได้วิชาแปดประการแล้ว ยังมีเอตทัคคะ คือเชี่ยวชาญเฉพาะตัวผิดกับคนอื่น ทั้งนี้เป็นด้วยบารมีพิเศษ ที่เคยสร้างสมมาแต่อดีตชาติ
-
พระอรหันต์บางองค์มีลาภเป็นอเนกปราการ ดังเช่น พระสีวลีอรหันต์ ด้วยท่านได้สะสมบารมีมายิ่งกว่าใคร ดังพระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นเลิศในทางลาภผล เมื่อคราวที่ขบวนยาตราของพระสงฆ์ ผ่านไปยังเมืองหนึ่ง โดยมีพระบรมศาสดาเป็นประธาน พระองค์ยังตรัสให้พระสีวลีกับบริวารเสด็จล่วงหน้าไปก่อนสัก 2-3 เดือน เพราะด้วยบารมีของพระสีวลี อาจบันดาลให้เมืองนั้นที่ยับเยินด้วยภิกขภัยย่ำยีอยู่ ได้ฟื้นตัว และอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาแทนที่ พอครบกำหนดเหล่าคณะสงฆ์จำนวนมาก ที่ยาตราตามเสด็จพระพุทธเจ้า ก็ได้ผ่านมายังเมืองนั้น ผลของความอุดมสมบูรณ์ที่บังเกิด กองทัพธรรมของพระพุทธองค์จึงสะดวกสบาย ประชาชนฟื้นตัวจากความแห้งแล้ง และสมบูรณ์ขึ้น จึงมาใส่บารตร ปรนนิบัติเหล่าสงฆ์ให้บริบูรณ์โดยทั่วกัน
- พระอรหันต์พุทธสาวกแต่ละองค์ ย่อมมีความพิเศษเฉพาะตนไม่เหมือนใคร บางท่านก็อาจล่วงรู้ถึงอดีตชาติของบุคคลนั้นๆ ได้ล่วงล้ำไปหลายชาติ บางองค์ก็รู้อดีตชาติล่วงไปได้ไกลลิบ นับอเนกขาติไม่สิ้นสุด
- นั่นเป็นอำนาจของสมาธิ ที่ได้รับการฝึกดีเลิศแล้ว จนอาจรู้ชาติต่างๆ ของบุคคล แต่ในการสะกดจิตนั้น ผู้สะกดไม่อาจมีอำนาจในตนเองที่สามารถล่วงรู้ ไปถึงชาติต่าง ๆ ของคนอื่น เพียงแต่ว่า เขามีอำนาจบังคับจิต ของผู้สะกดให้ดิ่งลึกเป็นจุดเดียว
จิตที่เป็นจุดเดียว เป็นเอกัคตารมณ์ ถือว่าจิตเป็นเอก มีฤทธิ์อำนาจ ผู้สะกดอาจสั่งให้ผู้ถูกสะกดนึกย้อนหลังไปสู่อดีต เช่น จากอายุปัจจุบันให้นึกย้อนหลังไปจนอายุ 20 ปี ต่อไป ก็ถอยลงไปเป็น 10 ปี 5 ปี 3 ปี 1 ปี ตามลำดับ แล้วไปสู่ภาวะแรกเกิด 1 เดือน เมื่อคลอดแล้วเข้าสู่ระยะ 1 เดือนในมดลูกแม่ ถอยหลังไปสู่ภาวะของดวงวิญญาน เมื่อก่อนจะเข้ามาจุติในครรถ์ของมารดา เมื่อถอยออกไปอีก 10 ปี วิญญานนั้นยังล่องลอยหาที่เกิดอยู่ หรือว่ายังมีชีวิตอยู่ในชาติก่อน โดยยังไม่ตายก็ถอยลงไปเรื่อย ๆ ได้เห็นชีวิตของผู้นั้นโดยตลอด จากนั้น ก็ถอยลงไปเรื่อย ๆ สู่ชาติโน้น ชาตินี้ ไม่มีที่สิ้นสุด
- ทางด้านพระพุทธศาสนาโดยทั่วไป ย่อมไม่มีที่น่าสงสัย แล้วในสมัยปัจจุบันซึ่งแวดล้อมด้วยการยึดถือทางวิทยาศาสตร์ การพิสูจน์ให้เห็นจริงคนอาจไม่เชื่อ ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงเรื่องราวพระธรรมเทศนาเป็นชาดกคือ อดีตชาติของพระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวพุทธได้รับการสั่งสอนถึงทศชาติ คือสิบชาติสุดท้ายก่อนที่จะมาอุบัติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ แล้วจึงจะเป็นพระพุืธเจ้า ในสิบชาติสุดท้ายนี้พระองค์ได้บำเพ็ญบารมีที่ยิ่งใหญ่ 10 ปราการ จนสู่สุดท้ายคือ ทาน บารมี ในเวชสันดรชาดก ซึ่งเรียกว่า มหาชาติ คือชาติที่ยิ่งใหญ่จากชาตินี้ บารมีที่ได้สะสมไว้ครบครันพอดี จึงเป็นเหตุให้บังเกิดองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมาได้
- ที่ตั้งของจิตนั้นอยู่กลางกายของเรานี้เอง มิได้อยู่ภายนอก บางท่านว่า..อยู่กลางหน้าอก หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านสอนให้ทุกคนกำหนดจิต เป็นหนึ่งที่กลางร่างกาย ต่ำลงมาเหนือสะดือเล็กน้อย โดยกำหนดที่ตั้งของจิต เป็นดวงใสเหมือนแก้วใส มีลักษณะขนาดนั้นไม่แน่ แล้วแต่บารมีของคน บางคนอาจเห็นใหญ่เท่าดวงจันทร์ คนเห็นขนาดนี้หายากมาก ส่วนใหญ่ก็จะขนาดเท่าผลส้มเขียวหวาน หรือเท่าเม็ดถั่วเขียว ไม่แน่นอน
- การกำหนดให้เห็นแสงสว่างเป็นดวงแก้วนี้ เรียกว่า อโลกกสิณ จิตจะรวมตัว หรือรวมไม่เข้าที่ ดีที่สังเกตจากแสงสว่างของดวงแก้ว ที่เรียกว่าดวงปฐมมรรค นั้น ถ้าดวงแก้วสว่างเหมือนดวงจันทร์ ก็เรียกว่า จิตรวมตัวเข้าที่ดีแล้ว แต่ถ้านิ่งสนิทก็จะใสเหมือนแก้ว หากว่ายิ่งไปกว่านั้น จิตจะนิ่งสนิทจนแทบไม่เห็น คงเห็นความใสของดวงแก้วกลมกลืนไปกับความมืด เห็นแต่เพียงขอบเท่านั้น อย่างนี้จึงเป็นลักษณะที่เรียกว่า อรูปฌาณโดยแท้
เรื่องสมาธินี้ผู้ไม่เคยฝึกอาจจะนึกภาพไม่ออก หากเคยฝึกมาบ้าง ผ่านพบมาบ้างก็จะเป็นแนวทางให้ดำเนินไปในทางที่ถูกต่อไป
- การสะกดจิตให้อยู่ให้จิตอยู่ในอำนาจ โดยจิตรวมตัวกันเป็นหนึ่ง สามารถอยู่ตามอำนาจผู้สะกด และอาจย้อนหลังไปสู่อดีตชาติได้ ซึ่งมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่า สามารถสะกดให้ผู้ถูกสะกดหลายคนด้วยกัน อาจระลึกชาติได้ย้นหลังไปถึง พันปี เมื่อค้นคว้าถึงผู้ที่ระลึกชาติต่างๆ พิสูจน์เปรียบเทียบกับบันทึกประวัติศาสตร์ ก็ตรงกับความเป็นจริงอันน่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง
ติดต่อบูชา LINE : @mayakarnlanna