“ดูก่อนภิกษุทั้งหลายสัตว์ทั้งหลาย ย่อมคบค้าสมาคมกันโดยธาตุทีเดียว
พวกมิจฉาทิฏฐิ ย่อมสมาคมกันกับพวกมิจฉาทิฏฐิ
พวกมิจฉาสังกัปปะ ย่อมสมาคมกันกับพวกมิจฉาสังกัปปะ
พวกมิจฉาวาจา ย่อมสมาคมกันกับพวกมิจฉาวาจา
พวกมิจฉากัมมันตะ ย่อมสมาคมกันกับพวกมิจฉากัมมันตะ
พวกมิจฉาอาชีวะ ย่อมสมาคมกันกับพวกพวกมิจฉาอาชีวะ
พวกมิจฉาวายามะ ย่อมสมาคมกันกับพวกมิจฉาวายามะ
พวกมิจฉาสติ ย่อมสมาคมกันกับพวกมิจฉาสติ
พวกมิจฉาสมาธิ ย่อมสมาคมกันกับพวกมิจฉาสมาธิ
พวกสัมมาทิฏฐิ ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมาทิฏฐิ
พวกสัมมาสังกัปปะ ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมาสังกัปปะ
พวกสัมมาวาจา ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมาวาจา
พวกสัมมากัมมันตะ ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมากัมมันตะ
พวกสัมมาอาชีวะ ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมาอาชีวะ
พวกสัมมาวายามะ ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมาวายามะ
พวกสัมมาสติ ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมาสติ
พวกสัมมาสมาธิ ย่อมสมาคมกันกับพวกสัมมาสมาธิ 1″
-
จากพุทธดำรัสนี้ ทำให้เราเข้าใจดีถึงสภาพชีวิตจริงในสังคมที่แต่ละคนต่างก็มีกลุ่ม และเข้าหากลุ่มของตนเอง เพราะว่ามีธาตุใกล้เคียงกัน ด้วยเหตุนี้มนุษย์แต่ละคนจึงไปสู่กลุ่มต่างๆ ตามธาตุของตน ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ทั่วไปในสังคม เป็นต้นว่า ข้าราชการก็จะเข้าหาสมาคมกับเหล่าข้าราชการด้วยกันหรือพวกติดยาเสพติด พวกนักเล่นการพนันก็จะไปสู่กลุ่มของตนเช่นกัน ทั้งนี้เป็นเพราะธาตุในตัวใกล้เคียงกัน ทำให้ดึงดูดเข้าหากัน
ดังนั้นถ้าเราอยากจะไปเข้าสมาคมกลับกลุ่มคนประเภทใด ก็สามารถทำได้ด้วยการทำให้มีธาตุใกล้เคียง หรือเหมือนกับกลุ่มคนเหล่านั้นหรือที่เรียกว่ากลั่นธาตุ หรือแปรธาตุดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ในทำนองกลับกันก็พึงสังวรระวังว่า หากเราไปสังสรรค์ผูกสัมพันธ์คบหาใกล้ชิดกับคนประเภทใดแล้วธาตุในตัวของเขาก็จะเหนี่ยวนำให้ธาตุในตัวของเราค่อยๆ เปลี่ยนไปใกล้เคียงกับธาตุในตัวของเขาด้วยเราจึงต้องหลีกเลี่ยงการคบคนพาล แต่หมั่นคบบัณฑิต
CR : DOU จักรวาลวิทยา
ติดต่อบูชา LINE : @namotasa