“ออร่า” แสงสีสะท้อนสุขภาพ เมื่อเสียชีวิต พลังออร่าจะหมดไปจากร่างกาย

” ออร่า ” แสงสีสะท้อนสุขภาพ
ร่างกายของมนุษย์นั้น ไม่ได้มีแต่เพียง “ กายเนื้อ ” ที่ปรากฏเห็นด้วยสายตาเท่านั้น ไม่ได้มีแค่ศีรษะ แขน ขา ลำตัว ฯลฯ หากแต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ หลอมรวมอยู่เป็นหนึ่งเดียวอีกด้วย ที่สำคัญคือ สิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านี้ยังสามารถพัฒนาและนำมาใช้ในการผดุงสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย องค์ประกอบของร่างกายอื่นๆ ที่ว่า…คืออะไร “ ม.ล.อัคนี นวรัตน์ ” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาจิต ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า องค์ประกอบที่ว่านี้ก็คือ ออรา จักร และเส้นโคจรพลัง หรือที่เรียกว่า เส้นเมอร์ริเดียน แต่ในทีนี้จะอธิบายเฉพาะส่วนของออราเป็นสำคัญเท่านั้น
  • ออร่า คือสิ่งที่ดำรงอยู่ในธรรมชาติ คือพลังแม่เหล็กไฟฟ้าที่สภาพเหมือนกับแคปซูลที่คลุมอยู่รอบตัวเรา ออรา สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อาจจะขยายใหญ่ขึ้น อาจจะเข้มข้นขึ้นหรืออาจะเบาบางลงก็ได้ ซึ่งในผู้ป่วยที่ใกล้จะเสียชีวิต จะตรวจพบว่า พลังออราจะลดต่ำลงไปมากจนเกือบไม่มี และเมื่อเสียชีวิต พลังออราก็จะหมดไปจากร่างกาย
ออร่า มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร ?
สิ่งสำคัญของมนุษย์มีทั้งหมด 4 อย่าง คือ ร่างกาย ออรา จักกระ และเส้นโคจรพลัง ถ้าทั้ง 4 ส่วน มีความสมบูรณ์ร่างกายก็จะแข็งแรง แต่ถ้าหากมีส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่องหรือย่อหย่อนไป จะทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพตามมาได้ ออรา เปรียบเสมือนแคปซูลที่ครอบคลุมร่างกายอยู่ สิ่งใดที่จะผ่านเข้าสู่ร่างกายก็จะต้องผ่านออราก่อน เมื่อใดก็ตามที่ออราไม่เข้มแข็ง มีตำหนิ มีรอยแตกหรือบางด้วยปัจจัยใดๆ ก็ตาม สิ่งที่ไม่ดีก็จะทะลุเข้าสู่กายเนื้อได้โดยง่าย จากนั้นก็ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา
  • การอ่านแสงออร่า
    1. สีที่อยู่ใกล้ร่างกายมากที่สุดมักบ่งบอกถึง สภาพและพลังของร่างกาย สีที่อยู่ห่างออกไปบ่งบอกถึงอารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณที่ส่งผลกระทบ ต่อสีของร่างกายได้
     
    2. สียิ่งสดใสและเย็นตาก็ยิ่งดี สียิ่งหนาทึบและขุ่นมัวก็ยิ่งแสดงถึง ความไม่สมดุล การทำงานมากเกินไป และปัญหาที่เป็นไปได้อื่นๆตรง ตำแหน่งที่สีนั้นปรากฏอยู่
     
    3. สีเข้มๆ แต่สดใสก็บ่งบอกถึงระดับพลังที่สูงได้เช่นกัน การมีสีเข้มไม่จำเป็นต้องไม่ดีเสมอไป
     
    4. แสงออร่ามักมีมากกว่าหนึ่งสี โดยแต่ละสีจะบอกถึงเรื่องที่แตกต่างกันไป เราต้องเรียนรู้ว่าสีที่ต่างกันนี้ส่งผลอย่างไร และผลของสีที่ผสมกันเป็นอย่างไร
     
    5. เมื่อเรามองเห็นออร่าผู้อื่น ให้จำไว้ว่า เรากำลังมองผ่านแสงออร่าของเราเอง และการอ่านออร่าคนอื่น จำเป็นต้องรู้จักออร่าตนเองก่อน ถ้าแสงออร่าเรามีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ ความจริงของคนอื่นสีน้ำเงิน เราอาจเห็นเป็นสีเขียว ปรับเปลี่ยนไปตามจิตใต้สำนึก จึงอย่าด่วนสรุป
     
    6. อย่าตัดสินใจคนด้วยสิ่งที่เห็นจากแสงออร่า
     
    7. เรียนรู้การใช้จิตในการอ่านแสงออร่า สีและความชัดเจนบ่งบอกถึงสิ่งที่แตกต่างกันทั้งสิ้น

    8. แสงออร่าเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง อารมณ์ การใช้ร่างกายและจิตอย่างหนัก ส่งผลต่อแรงสั่นสะเทือนของสีและแสงออร่า แสงออร่าเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเราอายุมากขึ้น เมื่อเราพัฒนาความสามารถในการมองแสงออร่า เราจะพบว่าแต่ละคนจะมีสีเด่นเพียงสีเดียว หรือหลายสีที่ปรากฏอย่างต่อเนื่อง ( แม้โทนสีอาจเปลี่ยนไป ) สีที่รองลงมาและความเกี่ยวข้องกันของสีหนักและสีรอง
     
    9. สีและโทนสีที่เราเห็นมักจะเป็นสีเทาหรือน้ำเงินอ่อน ฝึกไปเรื่อยๆก็จะมองเห็นเอง อย่ากำหนดเวลาให้ตนเอง แต่ควรฝึกทุกวัน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 4-6 สัปดาห์ อย่างน้อยที่สุดเราจะเริ่มมองเห็นแสงออร่า แม้ว่าจะยังไม่เห็นสี
     
    10. เมื่อเราพัฒนาความสามารถในการมองออร่า จำไว้ว่า เราไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับพลังของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เราต้องใช้ความสามารถในการมองออร่าอย่างมีความรับผิดชอบ

ออร่า.. คือ แสงสีที่เกิดจากเซลล์ต่างๆและอวัยวะส่วนสมองของเรา บ่งบอกถึงสภาวะจิต ความรู้สึกนึกคิด สุขภาพร่างกายของเราว่าเป็นอย่างไร ใครมีความคิดดี มีสมาธิดี มีสติปัญญาความขยันหมั่นเพียร มีความสดชื่นสดใส แสงออร่าก็จะแผ่กว้างออก ยิ่งมีพลังมากก็จะแผ่กว้างมาก ใครที่ไม่มีสมาธิ ขาดสติปัญญา แสงออร่าก็จะน้อยไม่มีพลัง ในทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่า สมองของคนเรานั้นจะมีคลื่นพลังไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่เปล่งรัศมีเป็นพลังอำนาจออกมา ขนาดความกว้างและความสว่างของแสงนั้นขึ้นอยู่กับคลื่นพลังสมองของผู้นั้น

ติดต่อบูชา LINE : @namotasa

You cannot copy content of this page