เราคือใครนะ? ในห้าคนนี้

นิทานเซนบัวห้ากอ คนห้าเหล่า บอกเล่าถึงการหลุดพ้น การเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอันไม่มีสิ้นสุด ไร้จุดเริ่มต้น จะต้องมีหนึ่งคนตรงกับใครสักคนแน่นอน คุณคือใครหล่ะ? ในคนห้าเหล่านี้?

คนแรกยอมจำนนจนสำเร็จธรรม
นายหนึ่งเกิดมาในครอบครัวชาวนายากจน จึงปลงสังเวชว่าเกิดเป็นคนลำบากแท้หนอ นายหนึ่งจึงไปขอบวชตลอดชีวิตเพื่อจะปฏิบัติให้หลุดพ้นเสียและเพราะยอมจำนนแล้วทุกอย่างไม่ถือตัวตน ยอมให้ครูบาอาจารย์ท่านสอน รับฟังและทำตามโดยดี เมื่อตายไปก็ไปอยู่บนสวรรค์ หลุดพ้นจากความยากลำบากไม่ต้องเกิดอีก

นายสองหลงคิดว่าสำเร็จเองได้
นายสองเป็นคนฉลาด ทำอะไรก็จะใช้หัวคิดๆๆ เมื่อไปหาพระอริยเจ้า ท่านสอนอะไร นายสองก็จะใช้สมองคิดๆๆ แล้วเข้าใจ ทั้งยังสามารถ “คิดได้มากกว่า” พระท่านอยู่ร่ำไป นายสองจึงไม่ยอมจำนน และคิดว่า “ใครก็สอนเราไม่ได้แล้ว” เพราะเรานี้ “เก่งและรู้เกินกว่าพวกเขาแล้ว” แต่ภายนอกนายสองก็จะทำตัวเป็นคนอ่อนน้อม พูดจาอ่อนหวานถ่อมตนเสมอ แต่ใจกลับไม่ยอมจำนน เมื่อตายลง นายสองก็ไปเกิดเป็น “องค์ครู” เร่ร่อนอยู่ภาคพื้นดิน หากินด้วยการมาอาศัยกับคนที่รับขันธ์เอาตัวเองเป็นองค์ครู เพราะไม่หลุดพ้น เข้าถึงสัจจะธรรมความจริงไม่ได้นั่นเอง

นางสามเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์
นางสามมีสามีไม่ดี จึงปลงในชีวิตแล้วเข้าวัดวา เห็นพระดีๆ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็เลยคิดว่า “สามีเราไม่ดี มาทำดีกับพระดีกว่า” ตั้งแต่นั้นมา นางสามก็เฝ้ามองดู พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วสนับสนุนด้วยเงินก็ดี ปัจจัยก็ดี นางสามต้องทำงาน จึงไม่อาจปฏิบัติธรรมได้ความก้าวหน้าอะไรเลย สามีก็ยิ่งกดดันทำให้จิตเสื่อมต่ำอยู่บ่อยๆ สุดท้าย เมื่อนางสามตาย จึงได้ไปสวรรค์ ไปอยู่ในวิมานของพระที่ตนได้สนับสนุนนั้นเอง นางสามได้เป็นหัวหน้าเทวดาผู้ดูแลคลังบุญของพระรูปนั้นๆ

นางสี่ไม่ยอมใคร กลายเป็นวัวให้เทพขี่
นางสี่มีสามีไม่ดีเหมือนนางสาม ทว่า “ทิฐิมานะ ความคิดเห็นต่างกัน” นางสี่นี้ คิดว่า “ผู้ชายล้วนเลวไปหมด เราจะไม่ยอมจำนนต่อผู้ชายคนใดทั้งนั้น” เมื่อนั้นพระกาลีเห็นว่าจิตนางสี่เป็น “วัวดื้อ” จึงมาคุม มาขี่ มอบฤทธิ์เดชให้กับนางสี่ นางจึงยิ่งหลงตัวเองว่ามีฤทธิ์ทั้งที่ไม่ใช่ฤทธิ์ของตนจริงๆ เมื่อนางสี่ติดหนี้กับพระกาลีมากเข้าแล้ว ตายไป นางสี่จึงต้องใช้หนี้พระกาลี เป็นวัวให้ท่านขี่นั่นเอง

นางห้าเอาแต่อ่านแต่ไม่ทำอะไร
นางห้าชอบค้นคว้าหาความรู้แต่ไม่ทำอะไร “รู้แต่กลับไม่ทำ” ซะงั้น แม้รู้ว่ามีพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ นางห้าก็ยังเฉยๆ นางห้าคิดว่า “แค่อ่านก็พอแล้ว รู้แล้ว” เวลาในชีวิตของนางห้าจึงหมดไปกับการอ่านเพื่อรู้ แต่กลับไม่เกิดการกระทำใดๆ ออกมาเลย ผลบุญก็ไม่มีหล่อเลี้ยงนางเลย เมื่อนางห้าตายลง บุญที่มีอยู่บ้างก็น้อยนิด ไม่พอใช้เป็นวาสนาได้อยู่กับเทพใดได้ เพราะนางไม่เคยสร้างบารมีร่วมกับท่านใดไว้เลย นางจึงไม่มีเส้นสายบนสวรรค์ นางได้ไปเกิดเป็น “วิทยาธร” เทวดาชั้นผู้น้อย ที่ชอบศึกษาหาความรู้ แต่ไม่มีฤทธิ์เดช ไม่มีบริวาร ไม่มีบุญบารมีอันใดมากไปกว่าการศึกษาเอาตัวรอดไปวันๆ นางจึงวางแผน “ลงมาเกิดใหม่เพื่อสร้างบารมีให้มากกว่านี้” เพราะการเป็นเทพชั้นผู้น้อยนั้น ทำอะไรก็ไม่ได้เลยจะต้องอยู่อย่างนั้นเป็นพันๆ ปี ช่างน่าเบื่อแท้

นิทานอ่านเอาเรื่อง อาจได้เรื่องหรือไม่ได้เรื่อง แต่นิทานก็คือนิทานที่เล่าขานออกมาจาก ความจริง ปน จินตนาการ และสุดท้ายทุกจินตนาการก็ล้วนเป็นความจริงทั้งหมดนั่นเอง

– กำหนดกาลฤกษ์ทั้ง 6 –
กดอ่านที่นี่ >> ฤกษ์เทียนปฐมกัปป์คำ

พุทธานุภาพเทียนปฐมกัปป์คำ >> เทียนปฐมกัปป์คำ

 

ติดต่อบูชา LINE : @namotasa

You cannot copy content of this page