ผีและเทวดามีจริง

เรื่องผี และ เทวดา ทุกนิกาย ศาสนามีตำนานเล่าขานกันมานับพันๆ ปี ผีเป็นคำกว้างๆ หมายถึง สัตว์นรก เปรต อสูรกาย โอปปาติกะที่มีกายทิพย์อื่นๆ เช่น สัมภเวสี ส่วนเทวดาก็เป็นโอปปาติกะที่มีกายทิพย์เช่นกัน แต่มีระดับคุณธรรมจิตวิญญาณสูงกว่า ในสมัยก่อนๆ คนที่สงสัยว่าผีและเทวดามีจริงหรือไม่คงมีน้อย แต่ในปัจจุบันคนที่สงสัย หรือไม่เชื่อเลย มีมากพอสมควร เพราะ.. คนโบราณใช้หัวใจ ความเชื่อความศรัทธาและจิตวิญญาณนำทาง แต่.. คนปัจจุบันใช้ข้อพิสูจน์ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย สมอง ของตนเองว่าต้องสัมผัสได้ พิสูจน์ได้

  • หลักฐานจากพระพุทธศาสนา ประเพณีความเชื่อ และวิทยาศาสตร์ สาขาต่างๆ ที่แสดงว่าผีและเทวดามีจริง

หลักฐานทางพระไตรปิฎก

พระไตรปิฎกเล่ม 12 มหาสีหนาสูตร มีเรื่องกำเนิด4 โดยกล่าวว่าสัตว์โลกในจักรวาล มีกำเนิดอยู่ 4 แบบคือ 1. เกิดจากใข่ 2. ออกเป็นตัวเลย 3. เกิดในที่ชื้นแฉะ 4. เป็นโอปปาติกะ คือผุดเกิดเป็นกายทิพย์เลย เช่น เทพ สัตว์นรก เปรต

  • เล่มที่ 26 ขุททกนิกาย พูดเรื่องวิมานวัตถุ และเปตวัตถุ คือแสดงว่าในชาติก่อน ใครสร้างผลกรรมดีเลวอย่างไร? จึงได้เกิดมาเป็นเทวดาในชั้นต่างๆ และเกิดเปรตลักษณะต่างๆ

ความเชื่อถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมือง เช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระแก้วมรกต พระสยามเทาวาธิราช พระพรหมเอราวัณ พระบรมรูปรัชกาลที่5 พระพุทธชินราช พระพุทธโสธร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อีกมาก อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทย ความศักดิ์สิทธิ์จากแรงศรัทธาก็ตามมา เพราะพระพุทธรูปเหล่านี้มีเทพ เทวดาองค์สำคัญ ปกป้องรักษาอยู่ประจำ คนที่ไม่เชื่อผี-เทวดา ก็คงต้องเคยไปไหว้สักการะอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็คือการสักการะเทพ เทวดา ผู้ประจำรักษาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นนั่นเอง

บันทึกจากทั่วโลก

บ้านพักเอลวิส เพรสลี่ย์ ซึ่งเปิดให้คนทั่วไปเข้าชม มีคนเจอผีเอลวิสอยู่เสมอๆ แต่ไม่ค่อยมีใครกลัว เพราะผีเอลวิสไม่ดุ แต่งตัวสวยงามชุดนักร้อง (อธิบายในเชิงพลังงานตกค้างได้ว่า จิตวิญญาณเอลวิสมีความผูกพันกับอาชีพและบ้านมาก ตายไปแล้ว วิญญาณไปจุติใหม่แล้ว แต่ยังทิ้งภาพพลังงานตกค้างอันเข้มข้นเอาไว้ )

การถ่ายภาพผีและเทวดา

โอปปาติกะทุกภพภูมิ จะมีคลื่นรังสีแผ่ออกมาจากตัว ในความถี่ต่างๆกัน ซึ่งมนุษย์มองไม่เห็น แต่ฟิล์มอาจจับภาพได้บางคลื่นมิติ จึงมักปรากฏผีหรือเทวดาติดมาในรูปถ่าย ให้เห็นอยู่บ่อยๆ ทั่วโลก เรื่องคลื่นรังสีนี้อธิบายได้ว่า มนุษย์ สัตว์ พืช ทุกชนิด ต่างมีออร่าแผ่ออกจากร่างกายทั้งนั้น และสามารถถ่ายภาพรังสีได้ด้วยกล้องเคอร์เลี่ยน Kirlian

โอปปาติกะมาเข้าทรง

เรื่องการเจ้าทรงนี้มีการหลอกลวงกันมากกว่าจริง แต่การเข้าทรงจริงๆ ก็มีมากทั้งในไทย และ ต่างประเทศ เช่นช่วงสึนามิ 2547 ในระแวกที่ฝรั่งตายกันมากๆ ชาวบ้านถูกโอปปาติกะฝรั่งในเข้าร่าง พูดภาษาสวีเดน ฝรั่งเศส เยอรมัน กันคล่องไปเลย ถ้าผีไม่มีจริงแล้ว อะไรที่ทำให้ชาวบ้านเหล่านั้น พูดภาษาที่ตนไม่เคยเรียนรู้ได้คล่องแคล่ว

การสะกดจิต

คนที่ถูกสะกดจิตทุกคน ต่างยืนยันถึงสภาวะการเป็นกายทิพย์ ที่มีอยู่จริงในช่วงระหว่างการตาย ก่อนไปเกิดใหม่ โดยมีเหตุการณีน่าสนใจในชีวิตช่วงนี้มากมาย และชีวิตในช่วงนี้ก็คือ โอปปาติกะ ผีหรือเทวดา นั่นเอง

พิสูจน์โดยการวัดคลื่น

กายทิพย์ของผี และ เทวดา เป็นพลังงานที่คล้ายๆ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จึงมีผู้คิดสร้างเครื่องมือวัดคลื่นจากโอปปาติกะหรือผีขึ้นมา เรียกว่า Ghost Buster ซึ่งก็ใช้ได้ผล เมื่อโอปปาติกะปรากฎบริเวณใด เข็มวัดคลื่นแม่เหล็กจะกระดิกสูงขึ้น หรือเกิดเสียงดัง แล้วแต่จะกำหนด และอุณหภูมิ ก็จะเกิดการแปรผันด้วย

พิสูจน์ด้วยทฤษฏีสตริง (String Theory)

ฟิสิกส์พบว่า รูปเกิดจาการสั่นของเส้นพลังงานเล็ก ๆ ก่อให้เกิดอนุภาคต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นมวล เป็นเซลล์ของสิ่งมีชีวิต สิ่งที่เล็กที่สุดในจักรวาล เล็กกว่าอะตอม โปรตอน อิเลคตรอน หรืออนุภาคใดๆ เรียกว่า สตริง มีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆแบบปลายเปิด หรือแบบปลายปิด เส้นนี้จะสั่น ด้วยความถี่ต่างๆ กัน โดยสิ่งนี้คือต้นกำเนิดของอนุภาคและสสารทั้งปวง ขนาดของสตริงนี้ เล็กกว่าอะตอมมากๆ เพียงเศษส่วนร้อยล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ของหนึ่งอะตอมเท่านั้น ( เป็นอนันต์นับไม่ได้ ) และสิ่งนี้จะเกิดไม่ได้ในโลกสี่มิติที่เราอาศัยอยู่ แต่เอกภพมีกว่า 26 มิติ คือมิติของโลกทิพย์ โอปปาติกะจะอยู่ซ้อนๆ กับมิติมนุษย์ และมวลที่เล็กที่สุดที่เล็กที่สุดก็น่าจะเป็นส่วนประกอบของกายทิพย์ โอปปาติกะ หรือผี เทวดา ซึ่งมีความถี่ต่างๆกันตามแต่ละภพภูมิของตนเองนั่นเอง ดังพระพุทธองค์เคยตรัสว่า มิติของเทวดามีขนาดเล็กมากๆ ในระดับปรมณู แม้พื้นที่เปล่าเท่าปลายขนเนื้อทรายจรดลง ก็มีเทวดาอยู่ได้เป็นจำนวนมาก โดยไม่ต้องเบียดเสียดกัน

 LINE : @mayakarnlanna

ติดต่อบูชา LINE : @mayakarnlanna

You cannot copy content of this page