เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ
ตอบส่วนตัวไปแล้วก็เลยขออนุญาตเอามาตอบทางสาธารณะด้วย เผื่อถูกจริตบางคน เผื่อเกิดประโยชน์กับอีกหลายๆ คนนะคะ
รู้ไหมคะว่า..
ช่วงเวลาหลังจากที่เราสวดมนต์ ภาวนาทำสมาธิสำเร็จแล้วนั้น ดวงจิตเราจะประภัสสรอย่างยิ่ง กายจิตจะรวมเป็นหนึ่ง ฮอร์โมนและสารแห่งความปิติสุขจะถูกสูบฉีดไปถึงทุกๆ เซลล์ ทุกๆ อะตอมให้ร่าเริงเบิกบาน กายจิตวิญญาณจะสมดุลย์และมีพลังอย่างเต็มที่ นี่คือวินาทีทองคำ คือช่วงเวลาแห่งปาฏิหาริย์ คือวินาทีแห่งจิตเนรมิต คือวินาทีที่เราควรสร้างมโนภาพอธิษฐานถึงความปรารถนาให้คมชัด เพราะพลังจิตในวินาทีนี้จะทรงพลังมาก !!!
- คิดเรื่องดีงามเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนที่เรารัก ไม่ใช่เพื่อศัตรูคู่แค้นคู่ความ
- จงเชื่อมต่อสัญญาณกับสิ่งอันน่าปรารถนา เป้าหมายชีวิตที่เราอยากได้ อยากมี อยากเป็น ที่เป็นความรักเป็นความสุขของเรา
- ใช้พลังทั้งหมดเชื่อมต่อกับปัญญาญาณ เชื่อมต่อกับจิตอันทรงพลังของเรา ให้เกิดอำนาจเนรมิตย่นย่อเวลา ยึดโยงเอาความสำเร็จสมปรารถนาเข้ามาสู่ชีวิตของเรา
การให้อภัย การเมตตาอย่างจริงใจ การรักให้ได้อย่างหมดใจมันก็เป็นเรื่องยากนะ จิตวิญญาณเราถึงต้องเวียนเกิด เวียนตายนับแสนภพแสนชาติ เพียงเพื่อมาตื่น มารู้ มาเข้าใจให้กระจ่างชัด ถึงบทเรียนแห่งรักและเมตตานี้ให้สำเร็จให้จงได้สักภพใดสักชาติหนึ่ง การรักอย่างไร้เงื่อนไข การให้อภัยได้อย่างหมดหัวใจ มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับดวงจิตที่ถูกขังอยู่ในกายหยาบแห่งขันธ์ห้านี้ เพราะเราจะมองเห็นแต่ตัวเรา (อัตตา ) ความรู้สึกเจ็บปวดกับบางเรื่องราวของฉัน ปัญหาของฉัน กับใครบางคนที่จิตได้บันทึกเอาไว้อย่างละเอียดทุกอย่าง ยิ่งทุกข์มากเสียใจมาก เจ็บปวดรวดร้าวมาก การสั่นสะเทือนยิ่งรุนแรงมากสาหัสสากรรจ์มาก บทบันทึกยิ่งฝังรากลึกแนบแน่นในก้นบึ้งจิตวิญญาณ หากเรามัวไปจดจ่อกับปัญหาเก่าๆ โหยหาโหยไห้กับบทกรรมเก่าๆ จมจ่มอยู่กับรากเหง้าของบทบันทึกกรรม มันก็เหมือนเราไม่ยอมวาง ไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมออกมาจากสนามพลังงานตรงนั้น เฝ้าคิด เฝ้าผูก เฝ้าพันให้เงื่อนกรรมร้อยรัดแน่นยิ่งขึ้น …
ย้ายใจออกมาจากพลังงานตรงนั้น ง่ายกว่าไหม? อโหสิวางทุกอย่าง แล้วดีดตัวเองให้สุดแรงไปสู่สิ่งที่ชอบ เรื่องราวที่ใช่ สิ่งที่อยู่ใกล้แล้วมีความสุข คิดถึง นึกถึงแล้วชีวิตดีงามเจริญรุ่งเรือง
ก็ขอแนะนำง่ายๆ แบบนี้นะคะ .. ต่อไปหากใครทำอะไรให้เราเสียใจ หงุดหงิดใจ ทำร้ายใจเรา ก็ให้เราอุทิศบุญแผ่เมตตาเอ่ยอโหสิกรรมต่อกันไปจบสิ้นการผูกบุญ ผูกเวรต่อกรรมกันทันที เดี๋ยวนั้น !! แล้ววางเลย จบเลยในครั้งเดียว ไม่ต้องไปเวียนแผ่ เวียนเชื่อมคลื่นจิตต่อกันอีก เอาพลังชีวิตทั้งหมดที่มี มาจดจ่อ โฟกัสกับเรื่องดีดี คนดีดี สิ่งที่รัก คนที่รัก เป้าหมายชีวิต สิ่งที่เรามุ่งมั่นปรารถนาอยากได้ อยากมี อยากเป็น แบบนี้จะดีกว่ามาก จดจ่อกับสิ่งที่รัก ปล่อย และวาง สิ่งที่ไม่ใช่ คนที่ไม่ใช่ เรื่องลบเรื่องร้ายที่ไม่ชอบให้จบสิ้นไปจากใจ อธิบายแบบนี้พอเข้าใจไหมคะ?
ถ้าเรารู้แล้วว่า…
ชะตาชีวิตถูกกำหนดโดยสิ่งที่เราคิด
เราก็ควรเลือกว่าควรคิดเรื่องอะไร ควรพูดเรื่องอะไร ควรสนใจจดจ่อกับเรื่องอะไร ที่ผ่านๆ มา เราอาจไม่รู้ หรือรู้แหล่ะ แต่เผลอ ควบคุมใจไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป กรรมใดเกิดแล้วทำไปแล้ว เราแก้กรรมได้ !!! แก้ด้วยการกระทำปัจจุบันให้สมบูรณ์ที่สุด เมื่อชีวิตล้วนดำเนินไปด้วยเงื่อนไขกรรม ความง่ายงามของชะตาชีวิตที่ดีก็คือ เริ่มจากฝึกคิดดี ฝึกบ่อยๆ จนจิตติดคิดดีจนเป็นธรรมชาติของจิต แต่เมื่อไหร่เผลอพ่ายแพ้อารมณ์ก็รีบดึงจิตกลับมาให้ไว บอกตัวเองว่า จะคิดลบ คิดร้ายไปสร้างพลังกรรมให้ตัวเองทำไม? เพราะคนต้องรับหน่ะเรา ไม่ใช่เขา อย่าไปเก็บกดกลัวกรรมร้ายจนจิตตก หันจิตย้ายใจมาสร้างกรรมดีให้มาก เริ่มจากคิดดีก่อน คิดดีบ่อยๆ จิตใต้สำนึกบันทึกทับถมกระแสแห่งกรรมดีเอาไว้จนเข้มข้นทรงพลัง เมื่อนั้นหล่ะ..คนดีดี เรื่องราวดีดี อิทธิปาฏิหาริย์อันวิเศษ จะถูกยึดโยงพรั่งพรูเข้ามาในชะตาชีวิตจนไม่เหลือที่ว่างให้เรื่องลบคนร้ายๆเลย
“จำคำนี้ให้ขึ้นใจ”
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม 2563 แรม 1 ค่ำ เดือนหก ปีชวด
พระอาจารย์จุดเทียนบูชา เทียนมหาโสฬสมงคล
และ เทียนคู่ชีวิตมหาโสฬสมงคล
ณ.วิหารสะเดาะเคราะห์พระเจ้าพันองค์
เวลา 21.59 น.
รายละเอียดการบูชาฤกษ์ >> ฤกษ์บูชาเทียนมหาโสฬสมงคล
ติดต่อบูชา LINE : @namotasa