คำว่า ” กรรม “ เป็นคำที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว มันไม่ใช่การแสดงอำนาจของธรรมชาติเท่านั้น แต่กฏแห่งกรรมคือกฏเกณฑ์ที่ถูกต้อง และชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้หลายล้านคำ แก่นแห่งกรรมนั้นเข้าใจง่ายมาก มันถือว่า.. ชีวิตเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่ง ที่ต้องได้รับการอบรมสั่งสอน และกรรมจะนำบทเรียนชีวิตที่เราสมควรได้รับ และจำเป็นต้องได้รับมาสู่ตัวเรา เช่น.. ถ้าเราไปทำร้านคนอื่น เราก็ต้องถูกคนอื่นทำร้ายบ้าง เพื่อให้รู้ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ ตรงกันข้าม หากเราให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ให้เขากินอิ่ม นอนอุ่น เราก็จะได้รับความช่วยเหลือให้ได้รับความรู้สึกนั้นเช่นกัน
กฏแห่งกรรม สามารถให้คำตอบแก่ปัญหาชีวิตอีกมากมาย หลายๆลักษณะก็ไม่อธิบายได้ด้วยเหตุผลในระดับธรรมดาทั่วไป ซึ่งความเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม การกลับชาติมาเกิด สามารถตอบคำถามนี้และคำถามอื่นๆ ในทำนองเดียวกันนี้ได้ กล่าวคือ ถ้าใครคนหนึ่งต้องประสบความทุกข์ยาก แสนสาหัส ก็เพราะว่าในภพชาติก่อนเขาได้สร้างกรรม กระทำสิ่งไม่ดีเอาไว้มาก เช่น เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ทารุณโหดร้าย การกระทำนั้นจึงสะท้อนกลับมาสนองในชาตินี้ แค่ความเชื่อในกฏแห่งกรรมและการกลับชาติมาเกิดเพียงอย่างเดียว ก็สามารถอธิบายได้ว่า.. ทำไมคนๆหนึ่งจึงเกิดมาลำบาก ยากจนยิ่งนัก และทำไมบางคนจึงสวย รวย เก่ง ฉลาดและเป็นที่รักได้มากมายเหมือนฝันขนาดนั้น
เมื่อเกิดญาณทัศนะ ก็จะมองเห็นความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม มันไม่ใช่แค่มุมมองทางปรัชญาหรือตรรกะเท่านั้น แต่นี่คือประสบการณ์ที่คุณจะได้พบด้วยตนเองว่าผู้ที่ควบคุมกำหนดโชคชะตา บาป บุญ ก็คือตัวของเราเอง การกระทำ ความคิดของเราเอง มันเป็นอำนาจลึกลับของกฏแห่งการกระทำการสะท้อนกลับ ที่ทำให้เป็นไปตามผลการกระทำนั้น โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ และไม่อาจเปลี่ยนแปลงสัจธรรมความจริงนี้ได้
ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่สามารถทดแทนประสบการณ์ส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์ ดังคำว่า ” ชีวิตมีขึ้นมีลงดุจกระแสน้ำ จงใช้โอกาสยามน้ำขึ้นกอบโกยโชคลาภเอาไว้ให้หมด “ การมีความสามารถทางพลังจิต จะช่วยให้คุณสามารถเก็บเกี่ยวโชคลาภไว้ได้ ไม่เพียงแต่ในยามโชคดีเท่านั้น แต่ยังสามารถทำได้แม้ในยามดวงตกอีกด้วย โดยการฝึกสมาธิ วิปัสสนา หรือมรรควิธีใดใดสักรูปแบบหนึ่ง
ที่ถูกกับจริต
-
การฝึกพลังจิต ช่วยเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน และสอนหลายอย่างถึงศักยภาพภายในของเรา มีคำสอนของชาวธิเบตโบราณอยู่บทหนึ่งกล่าวไว้ว่า ” คุณไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นครูสอนคนอื่น จนกว่า คุณจะเข้าใจสังคมนั้นจริงๆ ด้วยตัวคุณเอง “ แปลความง่ายๆว่า คุณเองต้องปฎิบัติตามคำสอนที่คุณพร่ำสอนคนอื่น ถ้าบางคนคิดว่าเขาอยู่ห่างไกลที่จะเดินทางไปถึงจุดบรรลุอภิญญาโลกิยะ ก็ต้องปล่อยพวกเขาไว้ตรงนั้น นั่นคือวาสนาของเขา เพราะมนุษย์ทุกคนคือพรหมลิขิตชีวิตตนเอง เมื่อคุณเริ่มมองเห็นโชคชะตาในอนาคต ( แม้จะเพียงริบหรี่ก็ตาม ) นั่นแสดงว่า คุณได้บรรลุญาณหยั่งรู้ หรือในดวงจิตของคุณได้เปิดเผยอิทธิปาฎิหาริย์ออกมาแล้ว
ติดต่อบูชาLINE : @namotasa