สัญญาณฟ้ายามนี้ ดาวบาปเคราะห์สามดวง อังคาร เสาร์ มฤตยู ทำมุมแรงเล็งฉากถึงกัน จิตสำนึกมวลรวมตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด ตื่นตระหนก เครียด กังวล หยุดชะงัก กดดัน สูญเสียฉับพลันทั้งจากเป็นจากตาย จากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง นี่คือบรรยากาศของพลังงานมวลรวม ไม่ได้หมายความว่าต้องเกิดกับเราทุกคน เพราะ…ถ้าเราไม่เข้าไปรับ ไม่เข้าไปรู้สึก จดจ่อกับพลังงานเหล่านั้น พลังงานเหล่านั้นก็ไม่เกี่ยวกับเรา กลายเป็นเรื่องของคนอื่น
นี่คือช่วงเวลาอันสำคัญ ที่เราจะต้องมีสติปัญญาอย่างมาก ในการตระหนักต่อสถานการณ์ต่างๆ ของกรรมมวลรวม เมื่อเราคิดถึงสิ่งนั้น ดู ฟัง จดจ่อ เครียดวิตก กลัว กังวลต่อสิ่งนั้น เราจึงกลายเป็นสิ่งนั้น หรือเรียกได้ว่าเราปล่อยให้พลังงานของเราไหลไปตามกฎแห่งสิ่งนั้น “กฎแห่งกรรม “ นานแสนนาน.. ที่ดวงจิตทั้งปวงถูกดูดเข้าไปในพลังมายานี้ ชาติภพแล้วชาติภพเล่า แม้ดวงจิตใดดีดตัวเองมาจากพลังกรรมมวลรวม หรือคลื่นพลังงานระดับต่ำได้ จิตดวงนั้นก็จะเบิกบาน สงบสุขได้ในทุกข์สถานการณ์ และก้าวผ่านทุกบทเรียนไปได้อย่างง่ายๆ ที่เราเรียกกันว่า ” ปาฏิหาริย์ “ เขาจะไม่รู้สึกทุกข์ยาก หวาดหวั่นวิตกไปกับสิ่งนั้น สถานการณ์นั้น ปัญหานั้นๆ เพราะเขาจะตระหนักได้ถึงความจริง ที่ทุกสรรพสิ่งล้วนคือพลังงานที่ไหลลื่นไปตามระดับความสั่นสะเทือนของจิต หรือความคิดของเขาเอง คลื่นจิตที่วิวัฒน์แล้วจึงรู้จักใช้วิชา ” ย้ายใจ “ ย้ายออกจากทุกข์ วางทุกข์อันเป็นมายาสมมุติได้ ย้ายไปสู่ความเบิกบาน สงบสุข คลื่นพลังงานที่สูงกว่าได้ทันที เพราะในคลื่นความถี่สูงสุด ปัญหาอุปสรรคความถี่ต่ำ กรรม เวร มันจะอยู่ไม่ได้ และมันจะสลายหายไป…
คำสอนให้สวดมนต์ ภาวนา จุดเทียนบูชา ทำสมาธิ หรือการอาราธนาของอิทธิอำนาจของเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาแต่โบราณ จึงไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นคำสอนเพื่อยกระดับจิตวิญญาณจากคลื่นความถี่ต่ำของอุปสรรคปัญหา วิบากกรรม ขึ้นไปสู่พลังงานอันศักดิ์สิทธิ์ ความสงบนิ่ง อันเป็นคลื่นพลังงานอันสูงสุด
ยามทุกข์ยาก ไม่สบายใจ กังวลวิตก เราจึงควรเรียนรู้ที่จะยกระดับจิตของเราขึ้นสูงให้ได้ อย่าจมจ่อมอยู่กับกองทุกข์ อุปสรรคปัญหา อย่าอ่านสิ่งนั้น อย่าดูสิ่งนั้น อย่าจมจ่อมจดจ่อกับสิ่งนั้น เพราะสิ่งนั้นจะดึงดูดเราและเราจะดึงดูดสิ่งนั้นเข้ามา วงจรชะตาชีวิตของเราจึงวนซ้ำๆ อยู่เช่นนี้ และมันเกิดซ้ำๆ มาหลายชาติหลายภพแล้ว เหมือนวงรอบโคจรของดวงดาว ก็หมุนอยู่ซ้ำๆ เช่นนี้ การเอาชนะโชคชะตาคือ ความกล้าเลือกพลังงานระดับสูงสุดให้ชีวิต แค่กล้าเลือกยังไม่พอ ต้องกล้าเชื่ออย่างสุดใจด้วยว่า เราคือคนโชคดี เราคือความโชคดี และเรามีสิทธิ์ มีอำนาจที่จะโชคดี และมีสิทธิ์มีเสียงเต็มที่ต่อการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง
ไม่เคยมีความเป็นไปไม่ได้ในโลกของจิต สิ่งใดที่จิตคิด จดจ่อ ด้วยอำนาจแห่งอารมณ์และความคิด สิ่งนั้นจึงปรากฏ ไสยศาสตร์คือศาสตร์แห่งจิต ไสยศาสตร์จึงคือความเป็นได้ทั้งหมด คำว่าทั้งหมด ก็คือทั้งหมดสามารถเป็นไปได้ มีได้ สำเร็จได้ ยิ่งใหญ่ได้เท่ากับ ” ความเชื่อ ” ของเขาเอง คำว่าเป็นไปไม่ได้ไม่เคยเกิดขึ้นในโลกของจิตที่คิดแล้วได้
เมื่อพลังดาวบนฟ้า ปรากฏพลังร้าย เรายิ่งต้องทำในทางตรงข้ามให้ยิ่งยวด ดีอย่างยิ่งยวด สุข สันติ สงบ เบิกบาน อย่างที่สุด ยิ่งเรายกใจให้อยู่ในคลื่นความถี่สูงเท่าไหร่ ? เราจะเข้าถึงสภาวะปาฏิหาริย์ได้ตลอดเวลา อุปสรรคปัญหา วิบากกรรม ทั้งปวงจะสลายไป กรรมแก้ได้ เพียงตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะ เลือกเชื่อ เลือกอ่าน เลือกพูด เลือกทำ เลือกคิด ถ้าคิดอะไรไม่ออกให้หยุดคิด !! การหยุดคิดนั่นหล่ะ คืออุเบกขา คือขุมพลังความถี่สูงสุด
เจออะไรขัดใจ ทุกข์ใจ อึดอัดใจในช่วงนี้ ก็นิ่งเสีย เดี๋ยวสิ่งนี้ก็จะผ่านไป สิ่งใดหนุนใจเลือกสิ่งนั้น สิ่งใดกดจิต กดใจ ก็ให้ถอยห่างเสีย อย่าถือสาหาความกับใคร ยิ่งเรารักษาใจได้มากเท่าไหร่ ความโชคดีจะถาโถมเข้ามามากเท่านั้น ดาวอังคารเสาร์มฤตยูทำสามเหลี่ยมต่อกัน พลังของกฎแห่งสามคือ หากร้ายมันจะร้ายสามเท่า สามชาติ สามภพ หากเราควบคุมพลังให้มันแสดงผลด้านดี มันจะดีสามเท่า สามชาติ สามภพ คาถาสำคัญที่ต้องมีตอนนี้ คือ ” ช่างมันเถอะ เราโชคดี “ ท่องไว้ๆ แล้วเราจะดีสามเท่า
ทุกท่านผู้จุดเทียนบูชาในช่วงสำคัญ 6 เดือนหลังของปี 2564 นี้ ขอให้ท่านตั้งจิต กำหนดใจอย่างเต็มกำลัง เพื่อผลอันเป็นเลิศ เพื่อผลอันประเสริฐที่สุด หกเดือนหลังนี้ท่านพึงปฏิบัติบูชาอย่างเต็มกำลังในทุก ๆ ฤกษ์เถิด พุทธอำนาจและอิทธิอำนาจแห่งแรงคุณ แรงครู จะปกปักรักษาคุ้มครองคุ้มภัย ดลบันดาลได้สารพัดนึก เกิดแรงทวีผลสูงยิ่งเกินคาดคิด
หกเดือนนับจากนี้ ท่านพึงประสบแต่ความสุข สงบ ปิติ เบิกบาน มีมหาสติ มหาปัญญา มหากัลยาณมิตร ใช้ช่วงเวลานี้สร้างขุมพลังแห่งความมั่งคั่งสำเร็จ ปรารถนาสิ่งใดเคลื่อนตัวเองเข้าไปใกล้ ๆ สิ่งนั้น จนเป็นสิ่งนั้น จนสำเร็จสมปรารถนาในสิ่งนั้นเถิด
สันติสุข ตื่น รู้ และเบิกบาน